ClickaCars
  • หน้าแรก
  • ลงทะเบียนขายรถมือสอง
    • การเตรียมเอกสาร ขายรถมือสอง
  • ขายรถมือสองกับเราดีอย่างไร
  • ขั้นตอนการ รับซื้อรถมือสอง
  • ติดต่อเรา
April 8, 2020 by kppeaceman

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี (MERCEDES-BENZ AG)

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี (MERCEDES-BENZ AG)
April 8, 2020 by kppeaceman
MERCEDES-BENZ

เมอร์เซเดส-เบนซ์ (MERCEDES-BENZ) หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันว่า เบนซ์ เป็นรถยนต์สัญชาติเยอรมัน ซึ่งมีสัญลักษณ์เป็นรูปดาวสามแฉกถูกล้อมรอบด้วยวงกลม ก่อตั้งในปี ค.ศ.1926 โดยเป็นการรวมตัวกันของผู้ผลิตรถยนต์สองรายซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ยุคบุกเบิก ได้แก่ บริษัท Daimler Motorengesells- Chaft ก่อตั้งเมื่อปี 1890 โดย โกทท์ลีบ ไดม์เลอร์ (Gottlieb Daimler) ซึ่งเป็นผู้ที่ประดิษฐ์รถยนต์สี่ล้อคันแรกของโลก และบริษัท Benz & Cie ของคาร์ล เบนซ์ (Carl Benz) ผู้ที่ถือได้ว่าเป็นนักประดิษฐ์ที่ผลิตรถยนต์ออกจำหน่ายคนสำคัญของโลก ปัจจุบันสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ MERCEDESSTRASSE 136, 7000 STUTTGART 60, GERMANY,

ที่มาของชื่อ

ลูกสาวของเอมิล เยลลิเน็

 

มาจากชื่อลูกสาวของเอมิล เยลลิเน็ก ซึ่งมีความหมายว่า “ความสง่างาม” เหตุผลที่นำชื่อนี้มาใช้นั้นเพราะเมอร์เซเดสเป็นลูกค้าคนสำคัญของไดม์เลอร์ อีกทั้งยังนามแฝงที่เยลลิเน็กใช้ในฐานะนักแข่งรถ และเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการจัดจำหน่ายรถยนต์และเผยแพร่รถยนต์ของไดม์เลอร์ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางอีกด้วย

รถยนต์คันแรกที่ติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด

โดยในปี ค.ศ. 1900 บริษัทของไดม์เลอร์ได้ส่งรถยนต์คันแรกที่ติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุดกำลังแรงสูง ความเร็ว 35 แรงม้า หน้ารถขับเคลื่อนด้วยแรงส่งของล้อ ด้านหลังสองล้อ มีโครงสร้างเป็นเหล็กกล้า กระจังหม้อน้ำแบบรวงผึ้ง ดวงไฟ และองค์ประกอบอื่นๆ ที่ทันสมัย นับว่าเป็นประดิษฐกรรมที่มีความสำคัญมาก ๆ ในยุคนั้น โดยเยลลิเน็กได้นำไปแข่งขันที่สนามของเมืองนีซ ในเดือนมีนาคม ปี 1901 หลังจากนั้นรถยนต์ที่เมอร์เซเดสใช้แข่งกลายเป็นที่น่าสนใจต่อสารณชนมากขึ้น กลายเป็นตำนานในหน้าประวัติศาสตร์ยานยนต์ และได้รับการยกย่องให้เป็นต้นแบบรถยนต์สมัยใหม่คันแรกของโลก นอกจากนั้นยังเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ ได้ผลิตรถยนต์คอนเซ็ปต์ใหม่ๆ อีกมากมาย

สัญลักษณ์ของ MERCEDES-BENZ

MERCEDES-BENZ

สัญลักษณ์รูปดาวสามแฉกที่เป็นที่จดจำของคนทั่วโลกนั้น เป็นสื่อแทนความมุ่งมั่นของเดมเลอร์ที่จะพัฒนาระบบขับเคลื่อนยานพาหนะทั้ง ทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ มาจากการที่ไดม์เลอร์ ได้นำรูปดาวไปติดไว้เหนือหลังคาบ้าน และเขียนจดหมายบอกภรรยาไว้ว่า สักวันหนึ่งดาวดวงนี้จะเปล่งประกายเหนือโรงงานของเขา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ ซึ่งเขาได้นำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทดีเอ็มจี และได้รับการยอมรับ จนได้นำไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในรูปของดาวสามแฉกในเดือนมิถุนายน ปี 1909 และติดตั้งเป็นตราสัญลักษณ์อันโดดเด่นเหนือกระจังหม้อน้ำรถยนต์ตั้งแต่ปี 1910 เป็นต้นมา

Gottlieb Daimler
โกทท์ลีบ ไดมเลอร์ (Gottlieb Daimler)
 
Carl Benz
คาร์ล เบนซ์ (Carl Benz)

หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เกิดสภาวะเงินเฟ้อ และการค้าตกต่ำ ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับผลกระทบ ด้วยเหตุนี้เอง บริษัทดีเอ็มจี และเบนซ์ & ซี จึงได้รวมกิจการกันในปี ค.ศ.1924 เพื่อปรับมาตรฐานการออกแบบและการผลิต รวมทั้งความร่วมมือในการจัดซื้อ จัดจำหน่าย และโฆษณา เพื่อให้ยังคงยืนหยัดอยู่ในสถานการณ์นั้นได้ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ทั้งสองบริษัทได้มีการร่วมมือกันทางด้านการตลาดมาสองปี แต่ทั้งสองบริษัทใช้เครื่องหมายการค้าคนละแบบ จนเมื่อปี ค.ศ.1926 ทั้งสองบริษัทได้รวมเป็นบริษัทเดียวภายใต้ชื่อ ไดม์เลอร์-เบนซ์ เอจี จึงได้มีการออกแบบเครื่องหมายการค้าใหม่ โดยนำเอาลักษณะเด่นในสัญลักษณ์ของทั้งสองมาใช้ นั่นก็คือ ดาวสามแฉกของดีเอ็มจีจึงถูกล้อมรอบด้วยชื่อ เมอร์เซเดส และเบนซ์ โดยมีช่อชัยพฤกษ์เป็นตัวเชื่อมเครื่องหมายการค้านี้ ยังคงประทับอยู่บนรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เป็นสัญลักษณ์แทนคุณภาพและความปลอดภัยบนท้องถนนทุกหนแห่ง อีกทั้งชื่อ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังกลายเป็นสามัญที่ทั่วโลกรู้จักแบบฉบับนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต ซึ่งมีความเป็นมาที่ยาวนาน

Logo Benz

ล่าสุดใน ปลายปี 2010 เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ปรับเปลี่ยนตราสัญลักษณ์ใหม่ให้ดูมีมิติมากขึ้น เพื่อสื่อถึงความมุ่งมั่นในการที่พร้อมจะเป็นผู้นำพัฒนาผลิตภัณฑ์และพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ แก่โลกของยานยนต์แห่งอนาคตอย่างยั่งยืน อาทิ การบุกเบิกรถไฟฟ้า smart fortwo, B-Class F-cell และ A-Class E-Cell การนำเสนอเครื่องยนต์ V6 และ V8 ด้วยเทคโนโลยีแบบ BlueDIRECT เป็นต้น ทั้งนี้เนื่องจากตราสัญลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์นับเป็นสินทรัพย์ที่ทรง คุณค่ามากที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลก จึงทำให้เราจำเป็นต้องพยายามรักษาคุณค่าของตราสัญลักษณ์ที่สื่อความเป็น ผู้นำนี้ไว้ เพื่อแสดงถึงการเป็นผู้นำแห่งเทคโนโลยียานยนต์อย่างแท้จริง

เบนซ์คันแรกในไทย

เริ่มเข้ามามีบทบาทเมื่อรัชกาลที่ 4 ได้มีการตัดถนนสายแรกที่มีชื่อว่า “ถนนเจริญกรุง” เพื่อใช้เป็นเส้นทางสัญจรของรถม้าและรถลาก จนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้เกิดถนนเพิ่มขึ้นอีกหลายสาย จนกระทั่งในปี 1904 กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ได้สั่งซื้อรถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดส โดยปรากฏหลักฐานการสั่งซื้อผ่านเอกอัครราชทูตสยามประจำกรุงปารีส โดยมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ.1904 โดยกรมหลวงราชบุรีฯ ได้ทูลเกล้าฯ ถวายรัชกาลที่ 5 ทำให้รถยนต์คันนี้เป็นรถยนต์พระที่นั่งคันแรกในประวัติศาสตร์ไทย ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่น 28 HP 4 สูบ เครื่องยนต์ 35 แรงม้า หมายเลขแชสซี 2397 หมายเลขเครื่องยนต์ 4290

Mercedes Benz 28Hp
Mercedes Benz 28Hp คือ ราชยานยนต์คันแรกในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

คนไทยหลายคนก็มีโอกาสได้สัมผัสกับรถ Mercedes-Benz กันมาแล้ว ในรูปแบบของรถบัสหรือรถเมล์ โดยระยะแรก ห้าง บี.กริมม์  เป็นผู้นำเข้ารถ Mercedes-Benz มาจำหน่ายแก่เศรษฐีเมืองไทย รวมถึงรถเพื่อใช้งานในกองทัพและหน่วยงานต่างๆ กระทั่งปี พ.ศ. 2484 คุณเล็ก และคุณประไพ วิริยะพันธุ์ ได้ก่อตั้ง บริษัท ธนบุรีพานิช จำกัด ขึ้น เพื่อนำเข้าและจำหน่ายสินค้าคุณภาพดีจากยุโรปและอเมริกา รวมถึงรถหรูจากเยอรมันยี่ห้อ Mercedes-Benz นี้ด้วย โดยช่วงแรกเป็นการนำเข้ารถบรรทุกสำหรับขนส่งและรถโดยสาร และเมื่อตลาดรถเพื่อการพาณิชย์เป็นที่รู้จัก บริษัทก็ขยายสู่ตลาดรถยนต์นั่ง โดยเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Mercedes-Benz อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เป็นเจ้าแรก

ประเภทรถ MERCEDES-BENZ

Saloon และ Coupé

สำหรับรถเบนซ์ประเภท Saloon รุ่นต่างๆ เรียงลำดับจากเล็กไปใหญ่ ได้แก่ รุ่น  A-Class, C-Class, E-Class และ S-Class

ในส่วนของรถเบนซ์ประเภท Coupé รุ่นต่างๆ เรียงลำดับจากเล็กไปใหญ่ ได้แก่ รุ่น C-Class, E-Class และ S-Class โดยมีรุ่นพิเศษสำหรับรถยนต์สปอร์ต Coupé 4 ประตูออกมาโดยเฉพาะได้แก่ รุ่น CLA และ CLS 

  • เบนซ์ A-Class

Mercedes Benz ได้สร้างสรรค์รถยนต์คอมแพ็ค (Compact Car) มาต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่ปี 1977 จวบจนปัจจุบันกับ The New A-Class เจเนอเรชันที่ 4 รุ่น Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic ที่เพิ่งออกในปี 2019 ยังคงรูปลักษณ์ปราดเปรียวอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ตระกูล A-Class อยู่อย่างเต็มเปี่ยม เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความเท่ แต่เรียบง่าย และไม่เรียกร้องความสนใจจนเกินไป

เบนซ์ A-Class

เป็นรุ่นเล็กใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,332 ซีซี แต่ให้กำลังสูงสุดถึง 163 แรงม้า ซึ่งถือเป็นคอมแพ็คคาร์ ที่มีกำลังแรงม้ามากที่สุดในโลก เมื่อเทียบกับรถยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์เท่ากัน นอกจากนั้น ยังมีอัตราการปล่อยไอเสียต่ำเพียง 119-124 กรัม/กม. และยังมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพียง 5.2 ลิตร/100กม. เท่านั้น แม้จะยังไม่ได้ลดโลกร้อนเท่ากับ Eco Car แต่ก็ถือว่าได้ใจคนรุ่นใหม่ไม่ต่างจากรถเบนซ์รุ่นต่างๆ ที่ใหญ่ เร็ว และแรง

  • เบนซ์ C-Class

ถ้าเทียบกับรถเบนซ์รุ่นต่างๆ รถยนต์ตระกูล C-Class ถือเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมและขายดีมากๆ รุ่นหนึ่งของค่ายนี้ เพราะ ขนาด Mid Size สไตล์ดูภูมิฐานกว่าตระกูล A-Class อีกทั้งยังมีกำลัง และอัตราเร่งที่สูงกว่าอีกด้วย แต่ยังคงอยู่ในระดับราคาที่ทุกคนเอื้อมถึง

เบนซ์ C-Class

โดยในปัจจุบัน Mercedes Benz ได้ผลิตรถยนต์ตระกูลนี้มาจนถึงเจเนอเรชันที่ 4 และสามารถสนุกได้กับทั้งสไตล์ Saloon กับรุ่น C 220 d Avantgarde, C 300 e Avantgarde และ C 300 e AMG Dynamic ซึ่งตัวหลังให้กำลังสูงสุดถึง 211 แรงม้าเลยทีเดียว ส่วนคนที่ชื่นชอบสไตล์ Coupé ก็โฉบเฉี่ยวไปกับ C 200  AMG Dynamic ที่ตัวถังเล็กกว่าแบบ Saloon เล็กน้อย แต่ให้กำลังสูงสุดถึง 184 แรงม้า

  • เบนซ์ E-Class

หากเทียบให้ A-Class เป็น First-Jobber ที่รักความเท่, C-Class คือ คนทำงานไฟแรงที่กำลังก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งใหญ่ E-Class ก็คงเป็นนักธุรกิจที่มั่นคงทั้งอำนาจและเงินตรา และด้วยเหตุผลนี้ ทำให้รถยนต์ตระกูล E-Class กลายเป็นรถประจำตำแหน่งผู้บริหารที่ใครๆ ก็ยอมรับ แถมยังเป็นรถที่นอกจากจะน่าขับแล้ว ยัง ‘น่านั่ง’ เพราะภายในหรูหรากว่าตระกูล C-Class กว่าอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังนุ่มนวลอีกด้วย

เบนซ์ E-Class
  • เบนซ์ S-Class

Mercedes Benz ตระกูล S-Class ได้เดินทางมาถึงเจเนอเรชันที่ 6 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยยังคงวางมาดรถซาลูนสุดหรูคันนี้ ไว้อย่างดีเยี่ยมไม่เปลี่ยนแปลง จนได้ฉายาว่าเป็นหนึ่งใน ‘รถนั่ง’ ที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับรถเบนซ์รุ่นต่างๆ  ทั้งเบาะหนังชั้นดี เบาะหลังที่ปรับเอนได้ ช่วงล่างแน่นไม่มีหวิว รับประกันด้วยระบบความปลอดภัยสูงสุด เมื่อเที่ยบกับรุ่นแกนทุกรุ่น

เบนซ์ S-Class

Crossover / SUV / Offroad

รถยนต์แนวครอสโอเวอร์ เรียงลำดับจากเล็กไปใหญ่ ได้แก่ GLA-Class, GLC-Class, GLE-Class, GLS-Class และ G-Class

Carbriolet

รถยนต์เปิดประทุน เรียงลำดับจากเล็กไปใหญ่ ได้แก่ E-Class, S-Class, SLC-Class และ SL-Class โดย 2 รุ่นหลังเป็นรถยนต์ประเภท Sport Roadster ที่เหมาะทั้งกับการขับชมวิว

รถแวน

รถแวน

คลาสรถเบนซ์สำหรับรถตู้ Premium Van นั้น หรือที่เรารู้จักกันในนาม V-Class ซึ่งคุณสมบัติพื้นฐานอาจเหมือนกับรถตู้ทั่วไป แต่มีความนุ่มนวล และหนักแน่นของช่วงล่าง เหมาะกับการขับขี่ทางไกลแบบ Long Cruising ที่เยี่ยมยอด  

BenzCLK 240 รถแท้ๆสเปคครบ ราคาแค่ 5 แสนกว่าๆ คุ้มมาก!!

ขอบคุณข้อมูล: ประวัติของ เมอร์เซเดส เบนซ์ , เบนซ์คันแรกในเมืองไทย, รถเบนซ์รุ่นต่างๆ กับมหากาพย์เรื่อง ‘คลาส’ ที่ทุกคนอยากรู้

Previous articleลดภาระการผ่อนสู้โควิท19 เราจะผ่านไปด้วยกันNext article Toyota

About The Blog

Nulla laoreet vestibulum turpis non finibus. Proin interdum a tortor sit amet mollis. Maecenas sollicitudin accumsan enim, ut aliquet risus.

Recent Posts

NissanApril 13, 2020
MazdaApril 13, 2020
LexusApril 8, 2020

Categories

  • Lifestyle
  • News
  • Others
  • People
  • Post
  • Uncategorized
  • WordPress
  • รับซื้อรถยุโรป

Meta

  • Log in
  • Entries feed
  • Comments feed
  • WordPress.org

Tags

Agency Apollo13 Audi Benz BMW Information Popular Porsche WordPress ขนส่ง ซื้อรถ ดูแลรถยนต์ ทำใบขับขี่ยังไง รถยุโรป รับซื้อ รับซื้อรถ สอบใบขับขี่ ฺรับซื้อ ใบขับขี่

About This Sidebar

You can quickly hide this sidebar by removing widgets from the Hidden Sidebar Settings.

Recent Posts

NissanApril 13, 2020
MazdaApril 13, 2020
LexusApril 8, 2020

Categories

  • Lifestyle
  • News
  • Others
  • People
  • Post
  • Uncategorized
  • WordPress
  • รับซื้อรถยุโรป

Meta

  • Log in
  • Entries feed
  • Comments feed
  • WordPress.org